.เด็ก จะเลี้ยงยาก หรือ ง่าย บางที เป็นเรื่องของตัวเด็กเอง ไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือ การเลี้ยงดู
นั่นคือ #พื้นอารมณ์ …..คือ เกิดมาเป็นแบบนี้เอง
( ตอนท้อง เหมี่ยวสวดมนต์ และ อธิษฐาน ให้ลูกเป็นเด็กเลี้ยงง่ายตลอด …แม่จะได้สบาย )
#พื้นฐานอารมณ์ คือ
ลักษณะพฤติกรรมที่เด็กจะตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นๆ
…….ในสถานการณ์เดียวกัน เด็กที่พื้นฐานอารมณ์ต่างกัน อาจจะตอบสนองต่างกัน
เช่น เด็กเจอสิ่งใหม่ๆ บางคน ตื่นเต้นดีใจ แต่บางคน อาจจะกลัวเกาะแข้งขาพ่อแม่
พื้นฐานอารมณ์ของเด็กมี 3 แบบ
เด็กเลี้ยงง่าย (easy child) พบได้ 40%
อารมณ์ดี ยิ้มง่าย ปรับตัวง่าย กินง่าย นอนง่าย เข้ากับผู้อื่นง่าย ชอบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ท้าทาย
……..ถึงแม้ ลูกเราจะน่ารักเลี้ยงง่ายยังไง ก็ไม่ควรตามใจ จนเกินไป
……..และ ไม่ควรตึงจนเกินไป เพราะ เด็กเลี้ยงง่ายแนวโน้มจะเชื่อฟังพ่อแม่ และ ปฏิบัติตาม
การสั่งลูกทุกอย่าง …จะทำให้ เด็กไม่มีความคิดของตัวเองได้
เด็กเลี้ยงยาก (difficult child) พบได้ 10%
ร้องไห้บ่อย หงุดหงิดง่าย เเปรปรวนเร็ว ปรับตัวยาก กินยาก นอนยาก ปฏิเสธหรือต่อต้านสิ่งใหม่ๆ
……เมื่อลูกเลี้ยงยาก พ่อแม่และผู้ใหญ่มักหงุดหงิดกับลูกบ่อยๆ …. อดทน นะคะ พยายาม อารมณ์ดี อย่าติดว่าตัวเอง เลี้ยงลูกไม่ดีมั้ย ทำไมลูกร้องไห้/หงุดหงิด เหนื่อยก็พักค่ะ
…ข้อดี ของเด็ก difficult child คือ ไม่เชื่อ ไม่ทำตามอะไรง่ายๆ
…. แต่ ถ้าเปิดใจ ยอมรับฟังใคร จะเชื่อและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
…..เมื่อพ่อแม่ อดทน และรักดูแล เข้าใจลูก…เราจะพบว่า ลูกเราเป็นเด็กเข้มแข็งมากเลย
เด็กที่ค่อยๆปรับตัว (The slow to warm up child) พบได้ 15%
เด็กกลุ่มนี้จะ #ใช้เวลาปรับตัว กับสิ่งใหม่ๆ
แค่เรา ให้เวลาเขา
….เมื่อเรามีลูก ที่ค่อยๆ ปรัปตัว เราแค่
#อดทนรอคอย
ไม่ต้องรีบเร่ง หรือ ช่วยลูกเร็วเกินไป
…..การที่ ไม่ให้เวลาลูกปรัปตัว เด็กมักไม่มีโอกาสทำอะไรด้วยตนเอง
เด็กที่ไม่สามารถจัดอยู่ในทั้ง 3 แบบนี้ได้ จะเป็นเด็กที่มีลักษณะพื้นฐานอารมณ์ที่เป็นแบบผสม( mixed child) ซึ่งจะมีส่วนไหนมากน้อยก็ขึ้นกับเด็กแต่ละคน
……ลูกอาจปรับตัวยากในบางสถานการณ์ เราก็ใช้ ความสม่ำเสมอในการกระตุ้นและฝึกเขาเรื่อยๆ จนเขาสามารถปรับตัวได้
ลูกเราจะเป็นเด็กที่มีพื้นฐานอารมณ์แบบไหน
#การเลี้ยงดูก็มีผลต่อเด็ก
…… ถ้าเราเลี้ยงดูลูกอย่างดี ด้วยความรัก ความเข้าใจ ไม่ว่าลูกจะเลี้ยงยาก / เลี้ยงง่าย ลูกก็จะเติบโตอย่างดีได้ แน่นอน
.
วิธีการเลี้ยงดูที่ไม่เหมือนกัน คนหนึ่งเลี้ยงแบบหนึ่ง คนหนึ่งเลี้ยงอีกแบบ กลับไปกลับมา บางทีก็ผ่อนปรน บางทีก็เข้มงวดกับลูก ลูกจะสับสน และทำให้เขาเป็นเด็กที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ยากบ้าง ง่ายบ้าง แล้วแต่อารมณ์ ขาดวินัย และไม่ฟังใคร ได้
การเลี้ยงดูที่ดี ควรมี
มีเวลาคุณภาพร่วมกัน …..พูดคุย เล่นกับลูก กอดลูก ให้นม ร้องเพลง เล่านิทาน กล่อมนอน ….ล้วนเป็นเวลาคุณภาพทั้งนั้น
…..คือ มี เรา และมีลูก….ไม่ต้องสรรหาสิ่งของใดๆมากมาย
มีวินัยเชิงบวก ตามวัย
เช่น การฝึกให้ลูกรอคอยบ้าง
…เด็กที่ต่ำกว่า 3 ปี รอคอยได้ประมาณ 5-7 นาที
….เด็ก 3-4 ปีรอได้ประมาณ 12-15 นาที
…..เด็ก 4-5 ปีรอได้ประมาณ 15-30 นาที
เมื่อลูกเริ่มเดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ประมาณ 1 ปีขึ้นไป……ควรฝึกให้เขาช่วยเหลือตัวเอง กินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน ใส่เสื้อผ้า ใส่รองเท้า เข้านอน ตื่นนอนเป็นเวลา
มีเวลาให้ลูกได้เล่น ไม่ควรเร่งเรียน …..
การที่เด็กได้อยู่กับธรรมชาติ เล่นทราย เล่นน้ำ
เล่นบทบาทสมมติ เล่นอะไรก็ได้….จะทำให้สมองเกิดการพัฒนา ไม่ใช่การเรียนหรือเขียนหนังสือ ในวัยเด็ก
และ #ไม่ควรใช้ หน้าจอก่อนวัย 2 ปี
มะเหมี่ยวเอง
หมอเด็ก / แม่น้องทับทิม